เก็บหลักฐานฟ้องชู้ ต้องรู้อะไรบ้าง ความเสี่ยงและข้อที่ควรปฏิบัติของอาชีพนี้
จริง ๆ แล้ว อาชีพนักสืบนี้มีความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะต้องใช้กลยุทธ์ วิธีพูด วิธีคิด และวิธีการหาคำตอบ หาข้อเท็จจริงที่แยบยล บางกรณีอาจมีการลงพื้นจริง ไปแฝงตัวอยู่ร่วมกับคนร้าย ซึ่งถ้าประมาทก็เสี่ยงถึงชีวิตได้ ดังนั้นการเป็นนักสืบต้องตระหนักถึงสิ่งดังต่อไปนี้ก็มาก เพื่อการดำรงอาชีพที่ยาวนานต่อไปนักสืบต้องเป็นนักวางแผนที่ดี
- บันทึกเรื่องราว และพยายามเก็บหลักฐาน
- ไม่บิดเบือนความจริง
- เอาตัวรอดได้ แม้ในสถานการณ์คับขัน
- ซื่อสัตย์ต่อการทำงาน เมื่อจบงานก็ควรจบการเก็บข้อมูลทุกอย่าง หรือ ไม่นำข้อมูลของผู้จ้างวานไปเผยแพร่
ท่านทราบหรือไม่ว่า การฟ้องชู้ จะต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง? และหลักฐานทุกอย่างที่ท่านมี ควรฟ้องตอนไหน? หากเก็บไว้นานหลักฐานเหล่านั้นจะยังมีประโยชน์หรือไม่ และหลักฐานที่เป็นประโยชน์นั้นควรเป็นแบบไหน? การแต่งานแบบไม่จดทะเบียน แต่สังคมรับรู้… จะฟ้องชู้ได้ไหม? ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้โดยไม่หย่าได้หรือไม่?
จากประสบการณ์ของนักสืบ สามีหรือ ภรรยาส่วนใหญ่ แม้จะถูกทำให้ช้ำใจ และเสียใจมากเพียงใด แต่ก็ไม่เลือกที่จะฟ้องหย่า อาจด้วยเหตุผลบางประการ เช่น ความรัก, บุตร, ครอบครัว, สถานะทางสังคม, สถานะทางเศรษฐกิจ หรืออื่นๆก็ตาม แต่เลือกที่จะให้บทเรียนแก่ชายชู้ หรือหญิงชู้แทนด้วยการฟ้องดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์มาตรา 1523 หรือ มาตรา 1452, 1465, 1470, 1471, 1474, 1497, 1501, 1564 และ 1598/38 ซึ่งนักสืบขอสรุปข้อควรรู้ให้ทุกท่านได้เข้าใจสั้นๆดังนี้ครับ
- การดำเนินคดีฟ้องชู้ จะต้องมีทะเบียนสมรส
- ต้องมีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมชู้สาว
- หลักฐานมีอายุความ 1 ปี นับตั้งแต่ที่ทราบ
เก็บหลักฐานฟ้องชู้ ต้องรู้อะไรบ้าง
การดำเนินคดีฟ้องชู้ จะต้องมีทะเบียนสมรส
การจะดำเนินคดีฟ้องชายชู้ หรือหญิงชู้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1523, 1452, 1465, 1470, 1471, 1474, 1497, 1501, 1564 และ 1598/38 จะต้องเป็นสามีหรือ ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากชายชู้ หรือหญิงชู้ เป็นคดีแพ่ง มีกฎหมายบัญญัติรองรับไว้ กรณีที่ใครก็ตามที่เป็นชาย และหญิง ไปเป็นชู้กับสามีหรือ ภรรยาผู้อื่นซึ่งสามี หรือภรรยาที่จะเอาผิดกับชายชู้ หรือหญิงชู้ได้ จะต้องจดทะเบียนสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น จึงจะมีเหตุไปเรียกค่าสินไหมทดแทนจากชายชู้ หรือหญิงชู้ได้
การจะฟ้องชายชู้ หรือหญิงชู้ได้ จะต้องมีทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นเครื่องยืนยันเท่านั้น การแต่งงานแบบไม่จดทะเบียน แม้จะจัดงานใหญ่โต มีสังคมรับรู้มากมาย ก็ไม่สามารถฟ้องในมาตรานี้ได้ แต่สามารถกับมาตราอื่นได้ เช่นการทำให้เสียชื่อเสียง ฯลฯ
ท่านสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงหรือชายอื่นที่มาเป็นชู้กับสามีหรือภรรยาของท่านได้ โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่ากับสามีหรือภรรยาก่อน หรือจะฟ้องหย่ากับสามีหรือภรรยาโดยอ้างเหตุตามมาตรา 1516(1) และเรียกค่าทดแทนจากทั้งสามีหรือภรรยาและชายชู้หรือหญิงชู้ได้ทั้งสองคน ตามมาตรา 1523 ได้เช่นกัน นักสืบจึงขอแนะนำให้ท่านปรึกษาทนายของท่านก่อนครับ
ในส่วนของบุตรผู้เยาว์นั้น กฎหมายได้กำหนดหน้าที่สำหรับบิดามารดาเอาไว้ว่าบิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่บุตรเป็นผู้เยาว์ ดังนั้น ไม่ว่าบิดาหรือมารดาจะยังสมรสกันอยู่หรือได้จดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว ก็ยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ไปจนกว่าบุตรผู้เยาว์จะบรรลุนิติภาวะ
ต้องมีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมชู้สาว
หัวใจสำคัญของคดีชู้สาว คือ “พยานหลักฐาน” เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับชายชู้หรือหญิงชู้ ซึ่งท่านต้องพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด บางครั้งอาจต้องใช้บริการ จ้างนักสืบชู้สาวมาทำงานให้เพื่อให้ได้หลักฐานที่สมบูรณ์ เพียงพอเพื่อที่จะนำไปใช้ร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชา ของอีกฝ่ายเพื่อที่จะให้รับรองบุตร หรือต้องการฟ้องหย่า หรือเรียกค่าสินไหมทดแทน
ต้องมีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการที่ชายชู้ หรือหญิงชู้นั้น ออกสังคมกันอย่างเปิดเผย มีหลักฐานสื่อพฤติกรรมการทำชู้ เช่น รูปถ่าย คลิปวีดีโอหรือ ภาพเคลื่อนไหว สื่อโซเชียลมีเดีย แชทข้อความบ่งบอก เป็นต้น การจะดำเนินการฟ้องชายชู้ หรือหญิงชู้ การจ้างบริษัทนักสืบเพื่อหาหลักฐานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ
หลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นชู้กัน คือ
- หลักฐานว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกัน พาสามี หรือภรรยา ไปทำชู้ตามสถานที่ต่างๆ พากันเข้าห้องในสถานที่ส่วนบุคคล เช่น โรงแรม หรือสอร์ท ฯลฯ หรือตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น โดยมีหลักฐานชัดเจน อาจเป็นรูปถ่าย หรือคลิป ภาพถ่ายทางสื่อสังคมออนไลน์ ภาพแอบถ่ายโดยนักสืบชู้สาว คลิปเสียงการสนทนา หรือภาพกล้องวงจรปิด คลิปวีดีโอการมีเพศสัมพันธ์ คลิปชู้สาว หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้องที่แสดงให้เห็นว่า สามีหรือภรรยากับชายชู้หรือหญิงชู้อยู่ในบ้าน หรือคอนโดฯ หรืออพาร์ตเมนต์เดียวกัน มีการพักอาศัยและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผย
- ข้อความในแชทต่างๆ รวมถึงการโพสต์ในสื่อ โซเชียลมีเดีย ก็ถือว่าเป็นหลักฐานประกอบอย่างหนึ่งเพราะมีข้อความสื่อชัดเจน สามารถนำมาประกอบการดำเนินคดีได้ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าทั้งสองคนนี้มีการโทรหาและติดต่อกันอยู่เป็นประจำ
- หลักฐานการเข้าพักตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ จากการถ่ายลงในเฟซบุ๊ค ไลน์ส่วนตัว หรือสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ
- ข้อมูลของการถือครอง หรือซื้อทรัพย์สินให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็น บ้านหรือคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ ฯลฯ ที่เป็นที่พักอาศัย รถยนต์ส่วนบุคคล หรือหุ้น ชื่อนั้นเป็นของชู้หรือของคู่รักของท่าน และใครเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่อสืบว่าชู้พักที่ใดก็จะสามารถทราบว่าที่พักอาศัยนั้นเป็นของใครและใครเป็นเจ้าของ ส่วนนี้อาจจะต้องจ้างนักสืบ ในการหาข้อมูล
- รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการโอนเงินให้กันใช้ หรืออุปการะเลี้ยงดูกัน ซึ่งหลักฐานนี้อาจจะต้องใช้บริการนักสืบชู้สาว สืบหาข้อมูลด้านการเงินของสามี หรือภรรยา เพราะบางครั้งสามี หรือภรรยาอาจจะมีการโอนเงินให้กับชู้หรือมีการเขียนเช็คให้ หรือมีการใช้บัตรเครดิตซื้อของเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่กัน หรือแอบไปเปิดบัญชีใหม่โดยที่ท่านไม่รู้ การสืบหาความผิดปกติจากการใช้จ่าย หรือการโอนเงินที่เกิดขึ้นซ้ำกันบ่อยๆ อาจเป็นชู้ที่ท่านตามหาก็เป็นได้
- สูติบัตรหรือทะเบียนบ้านของเด็ก ในกรณีที่คู้รักของท่านแอบได้เสียกับชู้จนถึงขั้นมีบุตรด้วยกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้หลักฐานที่กล่าวข้างต้นเลย คือ ชื่อ และนามสกุล ของชายชู้ หรือหญิงชู้ เพราะถ้าไม่รู้ชื่อ – นามสกุลอีกฝ่าย ก็ฟ้องไม่ได้ ต่อให้มีหลักฐานที่ชัดเจนมากก็ตาม
ดังนั้น หากมีการจ้างนักสืบเอกชนเพื่อหาหลักฐานแล้ว อย่าลืมจ้างสืบหาชื่อ-สกุลของชายชู้ หรือหญิงชู้ด้วยนะครับ
หลักฐานมีอายุความ 1 ปี นับตั้งแต่ที่ทราบ
อายุความ 1 ปี นับแต่มีหลักฐานรู้ชัดว่าสามี หรือภรรยามีชู้ ต้องฟ้องภายใน 1 ปี
อีกหนึ่งความรู้ที่จะขาดไม่ได้ คือ อายุความของคดีที่จะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากชายชู้ หรือหญิงชู้คือ 1 ปี เช่นเดียวกับการฟ้องหย่ากรณีมีชู้ด้วยเช่นกันกล่าวคือ ถ้ารู้แล้วว่าสามี หรือภรรยาตัวเองไปมีชู้กับชายอื่น หรือหญิงอื่น ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่ที่รู้ หรือมีหลักฐาน ถ้าปล่อยปละละเลยเกิน 1 ปี จะถือว่าไม่ติดใจในการที่จะดำเนินคดี หากเป็นการจ้างนักสืบหาหลักฐาน หลักฐานทุกอย่างจะมีเวลา วัน/เดือน/ปี ที่บันทึกภาพ หรือคลิป ดังนั้นจึงควรไตร่ตรองให้ดี
ซึ่งปัจจุบันคดีชู้สาวลักษณะนี้ใช้เวลาไม่นาน ใช้เวลาไม่เกิน 3-5 เดือนตั้งแต่ขั้นตอนการฟ้อง ให้จำเลยยื่นคำให้การ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย หากตกลงไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณา
สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะจากประสบการณ์ของนักสืบแจ๊ค พบเจอการเป็นชู้อยู่ 3 ประเภทหลักๆคือ
ประเภทที่ 1. เป็นชู้โดยไม่รู้ กล่าวคือไม่รู้ว่าเขาหลอก และที่ไม่รู้ตัวจริงๆว่าผู้ชาย หรือผู้หญิงคนนั้นมีสามี หรือภรรยาอยู่แล้ว ชาย หรือหญิงประเภทนี้จะตกเป็นเหยื่อของผู้ชาย หรือผู้หญิงมักมาก เจ้าชู้ และกลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่าตนเองถูกหลอกจะมี 2 ทางเลือกคือเลิกทันที หรือยอมเป็นชู้ประเภทที่2 และประเภทที่3
ประเภทที่ 2. เป็นชู้โดยสมัครใจ และยอมรับได้ ชายหรือหญิงที่รู้ว่าอีกฝ่ายมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ก็ยอมรับได้ และยินดีที่จะอยู่ในจุดของตัวเอง ไม่เปิดเผยตัว จะรู้การเคลื่อนไหวของสามี หรือภรรยาหลวงเป็นอย่างดี มีการเตรียมตัวที่ดี เคสประเภทนี้จะหาหลักฐานยากที่สุด และส่วนมากแล้วจะเป็นประเภทเคสที่ 1 ที่ตกเป็นเหยื่อ เมื่อรักแล้วจึงยอมทำทุกอย่าง
ประเภทที่ 3. ชู้ที่ต้องการเปิดเผย ชู้ประเภทนี้จะชอบก่อกวนสามี หรือภรรยาหลวงทุกที่ แสดงจุดยืนของตัวเอง อยากให้คนทั้งโลกรู้ว่าตนเองคือสามี หรือภรรยาอีกคน ชู้ประเภทนี้จะหาหลักฐานง่าย ส่วนใหญ่ไม่มีสถานะทางการเงิน และสังคม สามารถทำได้ทุกอย่างเพราะไม่มีอะไรจะเสีย ส่วนมากแล้วจะเป็นชู้ประเภทเคสที่ 1 ที่ตกเป็นเหยื่อ และต้องการทุกสิ่งทุกอย่างคืน